สถาน ที่ ท่องเที่ยว ใน กรุงเทพฯ

10 อันดับ สถานที่พักใจในวันหยุด

สถาน ที่ ท่องเที่ยว ใน กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยที่เที่ยวต่างๆ ที่เดินทางไปได้ไม่ยาก ทั้งยังมีร้านอร่อยบนท้องถนนที่คึกคักมีชีวิตชีวา วันนี้เราจะมาแนะนำที่เที่ยวใน กรุงเทพ ทั้งหมด 10 แห่งด้วยกัน

1. พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว

สถาน ที่ ท่องเที่ยว ใน กรุงเทพฯ

พระบรมมหาราชวัง และ วัดพระแก้ว คือจุดหมายปลายทางแรกใน กรุงเทพ ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

พระบรมมหาราชวัง สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2325 และเป็นที่ประทับของราชวงศ์มากว่า 150 ปี และเป็นแลนด์มาร์กที่โด่งดังที่สุดของ กรุงเทพ ในปัจจุบัน นอกจากนี้ วัดพระแก้ว หรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ยังตั้งอยู่ภายในพระราชวัง ซึ่งชื่อวัดมาจากการประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สมัยศตวรรษที่ 14 ซึ่งแกะสลักจากหยก

คนไทยสามารถเข้าชม พระบรมมหาราชวัง และ วัดพระแก้ว ได้ฟรี โดยต้องแต่งกายสุภาพซึ่งคลุมขาและไหล่ ไม่อนุญาตให้สวมเสื้อผ้าบาง ฉีกขาด หรือรัดรูปจนเกินไป พระราชวังเปิดทุกวันเวลา 08:30 – 15:30 น. นอกจากนี้ภายในวังยังมี พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่ภายในให้ไปเยี่ยมชมอีกด้วย

ขอบคุณรูปภาพจาก

www.klook.com

2. วัดโพธิ์

วัดโพธิ์ มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร มีพระพุทธไสยาสน์ (พระนอนวัดโพธิ์) ลงรักปิดทองยาว 46 เมตร วัดโพธิ์ยังขึ้นชื่อเรื่องการนวดแผนไทย และเป็นที่ตั้งของ โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ ผู้ที่เดินทางไปชมวัดสามารถรับบริการนวดแผไทยในบริเวณวัดได้อีกด้วย

วัดโพธิ์ ใช้เวลาเดินเพียง 10 นาทีจาก พระบรมมหาราชวัง และ วัดพระแก้ว สามารถไปเยี่ยมชมพร้อมๆ กันได้เลย คนไทยเข้าชม วัดโพธิ์ ได้ฟรี โดยต้องแต่งกายสุภาพ และต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าอาคารใดๆ ในบริเวณวัด วัดเปิดทุกวันเวลา 08:30 – 18:30 น. หากต้องการนวดมีค่าบริการเพิ่มเติม โดยให้บริการจนถึง 18:00 น.

ขอบคุณรูปภาพจาก

thai.tourismthailand.org

3. เยาวราช

เช่นเดียวกับเมืองใหญ่ๆ กรุงเทพ มี “ไชน่าทาวน์” หรือ เยาวราช ที่เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักชิมที่กำลังมองหาอาหารจีนและอาหารไทยที่ดีที่สุดในเมือง นักชิมที่ต้องการหาติ่มซำหรือก๋วยเตี๋ยวประเภทใดก็ตาม ควรมุ่งหน้าไปที่ ถนนเยาวราช ส่วนใครอยากกินขนมหวานหลังอาหารค่ำ เยาวราช ก็มีร้านมากมายให้เลือกเช่นกัน

นอกจากของอร่อยใน เยาวราช แล้ว อย่าลืมไปเยือน วัดมังกรกมลาวาส วัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของ กรุงเทพ ประตูจีน และ สวนรมณีนาถ คือที่เที่ยวอีกสองแห่งใน เยาวราช ที่ไม่ควรพลาด และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือร้านขายทองต่างๆ มากมายในย่านนี้ สถาน ที่ ท่องเที่ยว ใน กรุงเทพฯ

ขอบคุณรูปภาพจาก

www.makesend.asia/yaowarat-street-food/

4. แม่น้ำเจ้าพระยา

กรุงเทพ ได้รับฉายาในอดีตว่าเป็น “เวนิสแห่งตะวันออก” ด้วยเครือข่ายของคลองที่ไหลผ่านเมือง คลองเหล่านี้ได้รับการหล่อเลี้ยงโดยแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งมอบชีวิตให้แก่ กรุงเทพ มานานหลายชั่วอายุคน แม้ว่าแม่น้ำจะไม่ได้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเดินทางไปไหนมาไหนอีกต่อไปใน กรุงเทพ แต่พื้นที่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ยังคงเป็นส่วนสำคัญของเมือง

เผื่อเวลาชิลที่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือจะล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยาก็ผ่อนคลายไม่แพ้กัน แถมยังชมวิวแลนด์มาร์กชื่อดังของ กรุงเทพ ได้จากบนเรืออีกด้วย

ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีทัวร์ชมแม่น้ำ แท็กซี่น้ำ และดินเนอร์ครุยซ์ให้เลือกมากมาย นอกจากนี้ยังมีบริการเรือพาเที่ยวแม่น้ำและคลองแบบส่วนตัว โดยเลือกจุดลงเรือได้หลายจุดตามริมแม่น้ำ โดย ท่าเรือสาทร จะมีตัวเลือกมากที่สุด

ขอบคุณรูปภาพจาก

www.govivigo.com

5. ถนนข้าวสาร

ถนนข้าวสาร คือย่านสำคัญใน กรุงเทพ สำหรับแบคแพคเกอร์ เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางที่มีงบประมาณจำกัด และนักเดินทางแบกเป้เที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ก็มักจะมาแวะที่ กรุงเทพ และแวะที่ ถนนข้าวสาร ถนนที่มีชีวิตชีวาและพลุกพล่านแห่งนี้มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร และเต็มไปด้วยโฮสเทล บาร์ ร้านอาหารริมทาง และร้านค้าต่างๆ ที่รองรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด

หากใครต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่แท้ทรูของ ถนนข้าวสาร ให้ไปตอนค่ำเมื่อบาร์และคลับเปิดกันเต็มที่ ถนนข้าวสารจะเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ขายของ รวมถึงอาหารและของกินแปลกๆ อย่างแมลงทอด เป็นต้น ใครที่วางแผนจะไปเที่ยว ถนนข้าวสาร ต้องเตรียมใจเจอฝูงคนจำนวนมาก เพราะถนนสายสั้นๆ นี้รองรับผู้คนถึง 40,000 – 50,000 คนต่อวันในช่วงฤดูท่องเที่ยว

ขอบคุณรูปภาพจาก

palanla.com

6. ตลาดประตูน้ำ

ประตูน้ำ เป็นหนึ่งในย่านช้อปปิ้งหลักของ กรุงเทพ และในฐานะที่เป็นที่ตั้งของตลาดเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ที่นี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักช้อปที่มองหาเสื้อผ้าราคาประหยัด ประตูน้ำ หาค่อนข้างง่ายเพราะอยู่ใกล้ โรงแรมใบหยกสกาย ซึ่งเป็นอาคารสูงตั้งตระหง่าน 88 ชั้น

ประตูน้ำ ขึ้นชื่อเรื่องร้านขายส่ง สินค้าแฟชั่น และตลาดริมทาง นอกจากนี้ยังมีห้างสรรพสินค้า ตลาด และศูนย์การค้าไม่น้อยกว่า 10 แห่งในละแวกใกล้ๆ กับ ประตูน้ำ ซึ่งแต่ละแห่งก็เต็มไปด้วยร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และแม้แต่สิ่งทอในราคาสุดคุ้ม ไปถึงที่แล้วก็ไม่ควรพลาด แพลตตินั่มแฟชั่นมอลล์ และ ตลาดประตูน้ำ สำหรับผู้ที่ชอบแกดเจ็ตและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ต้องไปที่ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า และอย่าลืมว่าร้านค้าต่างๆ ในย่าน ประตูน้ำ สามาถต่อรองราคาได้

ขอบคุณรูปภาพจาก

www.punpro.com

7. ตลาดนัดจตุจักร

ตลาดนัดจตุจักร ครอบคลุมพื้นที่ 88.5 ไร่ และเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และก็อาจจะเป็นตลาดนัดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ทุกๆ สุดสัปดาห์ มีคนมาเยือนตลาดนัดนี้ถึง 200,000 คน เพื่อช้อปปิ้งตามร้านต่างๆ ที่มีอยู่ถึง 15,000 ร้าน

ตลาดแบ่งออกเป็น 27 โครงการ แบ่งเป็นโซนอาหาร งานศิลปะ ของเก่า และแฟชั่น เป็นต้น หากไม่เคยไปมาก่อน หาคู่มือเดินตลาดไว้ก็ดี จะได้มึนงงกับความใหญ่โตอลังการของ ตลาดนัดจตุจักร และถ้าจะให้ดี ควรวางแผนการเดิน ตลาดนัดจตุจักร ล่วงหน้า เพื่อจะได้เก็บครบทุกจุดตามที่ตั้งใจไว้

ตลาดทุกโครงการเปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 9:00 – 18:00 น. ซึ่งคนจะเยอะที่สุดในช่วงนี้ แค่ถ้าใครไม่เน้นช้อปและอยากซื้อต้นไม้ ให้ไปวันพุธหรือวันพฤหัสบดี เวลา 7:00 น. – 18:00 น. ซึ่งตลาดจะเปิดเฉพาะโซนต้นไม้เท่านั้น

ขอบคุณรูปภาพจาก

www.mixtchatuchak.com

8. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์

เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ เปิดให้บริการในปีพ.ศ. 2555 และกลายเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ จะมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ไม่เหมือนใครซึ่งผสมผสานระหว่างไนท์บาซาร์แบบดั้งเดิมกับห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัย ตลาดกลางแจ้งขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานี้ ในอดีตเป็นท่าเทียบเรือของบริษัทอีสต์เอเชียติก ปัจจุบันนี้พื้นที่แห่งนี้ประกอบด้วยโรงละคร 2 โรง ร้านค้า 1,500 ร้าน และร้านบูติก รวมถึงร้านอาหาร 40 แห่ง นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวมุมสูงได้ด้วยการนั่ง ASIATIQUE SKY ชิงช้าสวรรค์สูง 60 เมตรที่มีทั้งหมด 42 กระเช้า

เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ แบ่งออกเป็นสี่โซน แต่ละโซนมีร้านค้า ร้านอาหาร และสถานบันเทิงของตัวเอง ร้านค้าจะเปิดให้บริการในตอนเย็นเท่านั้น ที่นี่จึงเหมาะกับการมากินอาหารค่ำด้วยเช่นกัน รวมถึงช้อปปิ้ง และชมการแสดงหุ่นกระบอกที่โรงละครโจหลุยส์ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ เปิดทุกวันเวลา 16:00 น. ถึงเที่ยงคืน

ขอบคุณรูปภาพจาก

www.uhotelsresorts.com

9. ศาลท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ

ศาลท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2499 เนื่องจากการก่อสร้างโรงแรมเกิดอุบัติบ่อยครั้ง จึงต้องมีการขอพรจากพระพรหมและสร้างศาลพระพรหมขึ้น โดยมีการกำหนดว่า เมื่อโรงแรมสร้างเสร็จแลล้ว ควรสร้างศาลใกล้กับสถานที่ก่อสร้างโรงแรมเพื่ออุทิศแด่พระพรหม

ปัจจุบัน ศาลท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ เป็นศาลเจ้าที่มีผู้มาเยี่ยมเยือนบ่อยที่สุดแห่งหนึ่งใน กรุงเทพ และเป็นหนึ่งในศาลที่คนเคารพนับถือมากที่สุดและนิยมมาบนบานขอพร โดยทุกๆ วันจะมีการรำแก้บนให้เห็นเป็นประจำ

ศาลท้าวมหาพรหม เปิดทุกวันเวลา 06:00 น. – 23:00 น.

ขอบคุณรูปภาพจาก

www.silpa-mag.com

10. บ้านจิม ทอมป์สัน

James HW Thompson เป็นนักธุรกิจและสถาปนิกชาวอเมริกันที่สร้างความมั่งคั่งจากการค้าผ้าไหมไทยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง บ้านจิม ทอมป์สัน ตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ เป็นบ้านไม้สักที่จิม ทอมป์สันสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นบ้านพักอาศัยและเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวสำหรับงานศิลปะที่เขาใช้เวลาสะสมมานานหลายทศวรรษ อาคารแต่ละหลังในที่พักสร้างขึ้นในแบบเรือนไทยซึ่งบางหลังมีอายุมากกว่า 100 ปี ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลงานศิลปะและโบราณวัตถุที่น่าประทับใจมากมายของจิม ทอมป์สัน 

ค่าเข้า บ้านจิม ทอมป์สัน อยู่ที่ 200 บาทสำหรับผู้ที่มีอายุ 23 ปีขึ้นไป และ 100 บาทสำหรับผู้ที่มีอายุ 10-22 ปี เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี เข้าชมฟรี บ้านจิมทอมป์สัน เปิดบริการทุกวัน เวลา 09:00 – 18:00 น. มีไกด์นำเที่ยวภายในพิพิธภัณฑ์เป็นภาษาไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน และญี่ปุ่น ซึ่งไกด์นำเที่ยวนี้จะพาไปชมบ้านและเรียนรู้เกี่ยวจิม ทอมป์สัน รวมถึงการหายตัวไปของเขา สถาน ที่ ท่องเที่ยว ใน กรุงเทพฯ

ขอบคุณรูปภาพจาก

www.thaipost.net

อ้างอิงบทความจาก

www.agoda.com

Sponsored by

betflix slot