สถาน ที่ ท่องเที่ยว โตเกียว

10 อันดับสถานที่ ที่ต้องลองไปสักครั้ง

สถาน ที่ ท่องเที่ยว โตเกียว  โตเกียวเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่มีสิ่งต่างๆ มากมายให้คุณเลือก ไม่ว่าคุณจะอยู่ในย่านช้อปปิ้งอันคึกคักอย่างชิบูย่าหรือย่านประวัติศาสตร์อย่างอาซากุสะ ก็มีสถานที่ที่น่าสนใจทั่วเมือง เช่น สวนอุเอโนะ สวนอุเอโนะที่เรียงรายไปด้วยต้นซากุระ หรือประตูคามินาริมงที่วัดเซ็นโซจิ มีทั้งหมด 10 แห่ง สถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียวที่ไม่ควรพลาด

1. สวนอุเอโนะ (Ueno Park)

สวนอุเอโนะ (Ueno Park)

สวนอุเอโนะในใจกลางกรุงโตเกียวเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว ภายในอุทยานมีสถานที่น่าสนใจมากมาย มีพิพิธภัณฑ์ วัด ศาลเจ้า และทิวทัศน์ที่สวยงาม พื้นที่สวนเป็นส่วนหนึ่งของวัดคาเนอิจิอันงดงามจริงๆ สวนสาธารณะอุเนโนะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมในปี พ.ศ. 2416 และปัจจุบันดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 10 ล้านคนต่อปี นี่เป็นสถานที่ที่ดีในการชมดอกซากุระ หนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโตเกียวเมื่อดอกซากุระบานในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี ภายในสวนมีต้นซากุระมากกว่า 1,000 ต้นเรียงรายตามทางเดิน ความงามทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของสวนอุเอโนะคือทะเลสาบชิโนบาสุ ซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ทางมุมตะวันตกเฉียงใต้ของสวน นักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานน้ำได้

ขอบคุณรูปภาพจาก

www.jubileetravel.co.th

2. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว (Tokyo National Museum)

สถาน ที่ ท่องเที่ยว โตเกียว

ถ้าจะเลือกเข้าพิพิธภัณฑ์สักแห่งใน สวนอุเอโนะ ขอแนะนำให้ไป พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว ใน โตเกียว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในบรรดาพิพิธภัณฑ์สำคัญของโตเกียว โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1872 แรกเริ่มเดิมทีพิพิธภัณฑ์อยู่ในบริเวณ ศาลเจ้ายูชิมะ-เซอิโดะ (Yushima Seido Shrine) ก่อนจะย้ายมาที่ สวนอุเอโนะ ในภายหลัง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว มีคอลเล็กชั่นศิลปะและวัตถุจัดแสดงใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น (Japanese National Treasures) กว่า 100 ชิ้น และทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ (Important Cultural Property) กว่า 600 ชิ้น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว มีวัตถุจัดแสดงที่เป็นเอกลักษณ์กว่า 110,000 ชิ้นในส่วนจัดแสดงถาวร และอีก 4,000 ชิ้นที่เป็นนิทรรศการหมุนเวียน ซึ่งสับเปลี่ยนออกจัดแสดงเป็นประจำ คอลเล็กชั่นส่วนใหญ่เป็นงานศิลปะญี่ปุ่น และยังมีงานศิลปะมากมายมหาศาลจากจีน อินเดีย รวมถึงจากเส้นทางสายไหม (Silk Road) และศิลปะการปั้นพระพุทธรูปแบบกรีกด้วย

ขอบคุณรูปภาพจาก

www.teerapat.com

3. พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace)

พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) คือสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นของย่าน มารุโนจิ (Marunouchi) ใน กรุงโตเกียว โดยเป็นที่ประทับของราชวงศ์อิมพีเรียลซึ่งตั้งอยู่บนสถานที่ที่เคยเป็น ปราสาทเอโดะ (Edo Castle) ซึ่งเป็นป้อมปราการของเมือง โตเกียว ซึ่งเติบโตและขยายตัวไปรอบๆ นั่นเอง พระราชวังอิมพีเรียล ไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม ยกเว้น 2 วันสำคัญประจำปี คือวันที่ 23 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเกิดขององค์จักรพรรดิ และวันที่ 2 มกราคมสำหรับการอำนวยพรปีใหม่ ทั้งสองวันนี้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาในวังชั้นในได้ และสมาชิกราชวงศ์อิมพีเรียลจะเสด็จออกสีหบัญชรเพื่อทักทายประชาชน นอกจากตัว พระราชวังอิมพีเรียล เอง สิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดในรั้ววังก็คือ สะพานนิจูบาชิ (Nijubashi Bridge) สะพานนิจูบาชิ ซึ่งเป็นสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดในโตเกียวนี้ความจริงแล้วคือสะพาน 2 สะพานที่ทอดข้ามคูน้ำรอบปราสาทไปยังประตูใหญ่ของพระราชวัง

ขอบคุณรูปภาพจาก

chillchilljapan.com

4. พิพิธภัณฑ์จิบลิ (Ghibli Museum)

พิพิธภัณฑ์จิบลิ (Ghibli Museum) คือที่เที่ยวที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของ โตเกียว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ซึ่งเป็นค่ายหนังที่สร้างภาพยนตร์ที่หลายคนหลงรักอย่างเช่น “โตโตโร่เพื่อนรัก (My Neighbor Totoro)”, “มิติวิญญาณมหัศจรรย์ (Spirited Away)” และ “เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร (Princess Mononoke)” ภาพยนตร์เหล่านี้และอีกหลายเรื่องจากสตูดิโอจิบลิ กำกับโดยผู้ร่วมก่อตั้งผู้เป็นตำนานอย่าง Hayao Miyazaki หลายคนเปรียบสตูดิโอจิบลิเป็น “ดิสนีย์แห่งญี่ปุ่น” ซึ่งก็คงไม่ผิดเมื่อดูจาก พิพิธภัณฑ์จิบลิ ที่เหมือนเป็นดิสนีย์แลนด์อยู่กลายๆ พิพิธภัณฑ์ชวนฝันแห่งนี้มีอะไรสนุกๆ มากมาย อย่างเช่น บันไดเกลียว ฮอลล์วกวน ประตูขนาดแปลกๆ และสวนดาดฟ้า ชั้นล่างมีผลงานจัดแสดงด้านศาสตร์และประวัติความเป็นมาของแอนิเมชั่น ส่วนชั้นบนเป็นอาณาจักรของสตูดิโอแอนิเมชั่น ต้องเผื่อเวลาไว้อย่างน้อย 2 หรือ 3 ชั่วโมงเพื่อจะได้เที่ยวชมทุกอย่างในพิพิธภัณฑ์ให้เต็มที่ ไม่ต้องเป็นแฟนหนังของจิบลิก็ฟินกับนิทรรศการสุดน่ารักของที่นี่ได้

ขอบคุณรูปภาพจาก

travel.trueid.net

5. วัดเซนโจจิ (Sensoji Temple)

วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) เป็นวัดพุทธสีสันสดใสซึ่งตั้งอยู่ในเขต อาซากุสะ (Asakusa) ของ โตเกียว วัดนี้สร้างเสร็จเมื่อปี 645 เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง และยังเป็นหนึ่งในวัดที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ โตเกียว ในปัจจุบัน ทางเข้าวัดโดดเด่นเป็นสง่าด้วย ประตูคามินาริ (Kaminarimon Gate) ชื่อดัง อันเป็นประตูสีแดงใหญ่มหึมามีโคมไฟยักษ์แขวนอยู่ ประตูคามินาริ เป็นสัญลักษณ์โด่งดังของ อาซากุสะ ใครมาเยือนต้องถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก เมื่อผ่านประตูไปจะพบถนน นากามิเสะ (Nakamise Dori) ซึ่งเป็นถนนช้อปปิ้งยาว 200 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าขายของที่ระลึกและของขบเคี้ยวญี่ปุ่นมากมาย เมื่อเลือกซื้อของจากร้านค้าอย่างจุใจแล้ว เดินผ่านประตูโฮโซมอง (Hozomon Gate) เข้าไปในกลุ่มอาคารชั้นในของวัด ที่นี่มีหอหลัก เจดีย์ห้าชั้น และศาลเจ้าชินโตซึ่งรู้จักกันในชื่อว่า ศาลเจ้าอาซากุสะ (Asakusa Shrine)

ขอบคุณรูปภาพจาก

travel.trueid.net

6. อุทยานหลวงชินจูกุ (Shinjuku Gyoen National Garden)

อุทยานหลวงชินจูกุ (Shinjuku Gyoen National Garden) ก็เหมือนกับ สวนอุเอโนะ ซึ่งเป็นพื้นที่กลางแจ้งแสนสงบในเมืองอันวุ่นวาย อุทยานหลวงชินจูกุ ซึ่งเดิมทีเคยเป็นที่พำนักของโชกุน ได้กลายมาเป็นอุทยานของพระราชวังอิมพีเรียลในปี 1903 และสุดท้ายก็กลายเป็นสวนสาธารณะในปี 1949 สวนกว้างขวางขนาดราว 330 ไร่นี้มีสนามหญ้าเป็นเนินสวยเหมาะกับการปิกนิก และมีทางเดินคดโค้งที่เราจะได้ทอดน่องใต้ต้นซากุระนับพัน อุทยานหลวงชินจูกุ มีสวนถึง 3 โซน คือ สวนญี่ปุ่น สวนฝรั่งเศส และสวนอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีบึงน้ำสงบนิ่ง พื้นที่ป่าร่มรื่น และเรือนกระจกซึ่งมีดอกไม้กึ่งเขตร้อนและไม้เมืองร้อนสีสันสดใส ถ้าอยากหาอะไรกินภายในสวน ก็มี cafe HANANOKi ซึ่งขายอาหารญี่ปุ่นและของกินเล่น สถาน ที่ ท่องเที่ยว โตเกียว 

ขอบคุณรูปภาพจาก

th.trip.com

7. ศาลเจ้าเมจิ

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโตที่สำคัญและมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนมากที่สุดในญี่ปุ่น แม้จะตั้งอยู่ระหว่าง 2 ย่านที่พลุกพล่านที่สุดใน โตเกียว อย่าง ชินจูกุ และ ชิบูย่า (Shibuya) แต่ทุกด้านของศาลเจ้าก็โอบล้อมไปด้วยสวนงดงาม ที่ชื่อว่า สวนโยโยกิ (Yoyogi Park) ซึ่งมีขนาด 442 ไร่ เป็นพื้นที่ป่าเขียวชะอุ่มมีต้นไม้หนาทึบกว่า 120,000 ต้น ศาลเจ้าดั้งเดิมสร้างเสร็จเมื่อปี 1926 เพื่อรำลึกถึงองค์จักรรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีโชเก็ง ซึ่งช่วยเปลี่ยนแปลงญี่ปุ่นให้เป็นชาติอุตสาหกรรมทันสมัย สองข้างทางระหว่างเดินเข้าไปยัง เขตชั้นใน (Inner Precinct) ของศาลเจ้านั้นสวยเพลินตา เมื่อเข้าไปถึงก็มีสิ่งที่น่าสนใจให้ชมอีกมาก ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้พบกับพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงศิลปวัตถุและสมบัติล้ำค่าขององค์จักพรรดิและจักรพรรดินีด้วย มีเครื่องรางของขลังแบบชินโตแท้ให้บูชาที่สำนักงานวัตถุมงคล และมี สวนชั้นใน (Inner Garden) เงียบสงบซึ่งมีดอกไอริสบานในเดือนมิถุนายน

ขอบคุณรูปภาพจาก

travel.trueid.net

8. ห้าแยกชิบูย่า (Shibuya Crossing)

ห้าแยกชิบูย่า (Shibuya Crossing) ถือเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของ โตเกียว เป็นสถานที่ที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์มากมาย ห้าแยกนี้อยู่ตรงหน้าสถานีรถไฟ Shibuya Station ในเขต ชิบูย่า ที่แสนพลุกพล่าน เป็นทางเดินข้ามถนนขนาดใหญ่ที่คนจะต้องเดินตัดกันเป็นจังหวะราวกับเสียงหัวใจแห่งเมือง โตเกียว ผู้คนกว่าห้าแสนคนจะเดินผ่านห้าแยกนี้กันทุกวัน โดยจะต้องรอสัญญาณไฟที่บอกให้คนเดินเท้าข้ามถนนได้ ชาวโตเกียวจะก้าวเดินฉับๆ ข้ามถนนมาจากทุกทิศทางจนกระทั่งสัญญาณไฟเปลี่ยนให้รถแล่นต่อไปได้ ในชั่วโมงเร่งด่วนจะมีคนที่ข้ามถนนพร้อมกันกว่า 3,000 คนเลยทีเดียว ห้าแยกชิบูย่า เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปกันมาก เพราะฉะนั้นถ่ายได้เต็มที่ เพียงแต่ต้องระวังและมีสติหน่อยเท่านั้นเอง

ขอบคุณรูปภาพจาก

www.gotokyo.org

9. โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)

หอโทรทัศน์โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) เป็นที่เที่ยวใหม่ล่าสุดแห่งหนึ่งขอ งโตเกียว ซึ่งกลายเป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมอย่างรวดเร็ว และถ้าใครได้เห็นก็จะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น หอโทรทัศน์โตเกียวสกายทรี สร้างเสร็จในปี 2012 และตั้งตระหง่านบนผืนฟ้าย่าน สุมิดะ (Sumida) ด้วยความสูง 633 เมตร เป็นตึกที่สูงที่สุดอันดับ 2 ของโลก (รองจากตึก Burj Khalifa เมืองดูไบ) และเป็นสิ่งปลูกสร้างโดดซึ่งไม่มีอะไรยึดโยงที่สูงที่สุดในโลก โตเกียวสกายทรี ซึ่งทำหน้าที่เป็นหอคอยส่งสัญญาณโทรทัศน์นั้นไม่มีสิ่งใดบดบังทัศนวิสัยของตึก จึงมองเห็นวิวเมืองได้ 360 องศา นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวเพลินๆ ระหว่างจิบกาแฟจาก Skytree Cafe หรือกินอาหารที่ร้านระดับมิชลินสตาร์อย่าง Sky Restaurant 634 นอกจากนี้ยังมีร้านขายของฝากและบริการถ่ายภาพที่ระลึกด้วย

ขอบคุณรูปภาพจาก

www.japankakkoii.com

10. ตลาดปลาสึกิจิ (Tsukiji Market)

ใครๆ ก็รู้ว่าคนญี่ปุ่นชอบกินซูชิและอาหารทะเลมาก และแหล่งของสดที่คนญี่ปุ่นชอบไปก็คือ ตลาดปลาสึกิจิ (Tsukiji Market) ก่อนปี 2018 ตลาดในร่มของ ตลาดปลาสึกิจิ เคยเป็นแหล่งค้าส่งปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนที่ตัวตลาดภายในจะย้ายไป ตลาดโทโยสุ (Toyosu Market) ซึ่งนักท่องเที่ยวยังไปชมการประมูลทูน่ายักษ์ที่นั่นได้ แต่ตลาดส่วนนอกยังคงเป็นที่เที่ยวห้ามพลาดใน โตเกียว อยู่ ใครชอบกินอาหารอร่อยๆ และชอบเดินเที่ยวตลาด ต้องถูกใจแน่ถ้าได้มาเดินเที่ยวแผงร้านค้าหลายร้อยร้านที่ขายสินค้าและอาหารน่ากินมากมายใน ตลาดสึกิจิ ที่นี่มีทั้งแผงซูชิ ซุ้มราเมง ร้านค้าขายชาญี่ปุ่น แผงขายอาหารทะเลสด ผลไม้ ผัก แม้กระทั่งร้านตัวแทนจำหน่ายมีดทำครัวญี่ปุ่นคุณภาพดี สถาน ที่ ท่องเที่ยว โตเกียว 

ขอบคุณรูปภาพจาก

travel.trueid.net

อ้างอิงบทความจาก

www.agoda.com

Sponsored by

betflix slot