ภาคอีสาน หรือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย เป็นภูมิภาคที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล มีที่เที่ยวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแนวธรรมชาติ หรือแนวศิลปะวัฒนธรรม ตลอดจนวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ภาคอีสานถือเป็นอีกภาคที่มีสเน่ห์ไม่เหมือนใคร และยังเต็มไปด้วยพิกัดโดดเด่น น่ามาเช็คอิน ใครอยากทำความรู้จักกับภาคอีสานมากกว่านี้ ลองตามเรามาดู 10 ที่เที่ยวภาคอีสานที่สวย อะเมซิ่ง ควรค่าแก่การแวะมาซักครั้งค่ะ
มากันที่เหนือสุดแดนอีสานอย่าง จ.บึงกาฬ ค่ะ จังหวัดที่แม้จะเคยเป็นส่วนหนึ่งของ จ.หนองคาย แต่มีพื้นที่กว้างขวางไม่เป็นรองใครและยังเต็มไปด้วยที่เที่ยว Unseen Thailand อีกด้วย และหนึ่งในพิกัดไฮไลท์ ขอยกให้กับ ‘ หินสามวาฬ ’ โขดหินทรายอายุราว 75 ล้านปีที่มีรูปร่างคล้ายปลาวาฬใหญ่ยักษ์ แยกออกเป็น 3 ก้อน ขนาดลดหลั่นกัน ดูเหมือนวาฬพ่อ-แม่-ลูก
ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของภูสิงห์ (ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งเราจะได้เห็นทัศนียภาพของผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ถูกฉายให้สว่างไสวไปด้วยแสงสีส้มของดวงตะวัน อีกทั้งยังสามารถมองเห็นแม่น้ำโขงอยู่ไกลๆ ด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมาเที่ยวได้ทั้งปี แต่ถ้าใครจะแวะมาในช่วงหน้าฝน เราขอแนะนำให้เลือกใส่รองเท้าที่มีดอกยางเยอะๆ เกาะพื้นได้ดีซักหน่อย จะได้เดินเที่ยวสบายๆ ไม่ต้องกลัวลื่นค่า
ขอบคุณรูปภาพจาก
ภูทอกนั้นเป็นภูเขา 2 ลูก คือ ภูทอกใหญ่และภูทอกน้อย จุดที่เราขึ้นไปที่เที่ยวชมได้และเป็นที่ตั้งของวัดก็คือ ภูทอกน้อย โดยไฮไลท์ของที่นี่คือบันไดเวียนและสะพานไม้วนอยู่รอบๆ เขา อันเป็นทางสู่จุดชมวิว วัด และสถานปฏิบัติธรรมซึ่งอยู่ด้านบน ซึ่งภูทอกมีทั้งหมด 7 ชั้นค่ะ จุดชมวิวที่สวยที่สุดจะอยู่ที่ชั้น 6 ส่วนใครที่อยากมานั่งสมาธิก็สามารถขึ้นมาที่ชั้น 5 เพราะชั้นนี้จะประดิษฐานพระพุทธรูปและมีกุฏิพระ บรรยากาศจะเงียบสงบ เหมาะแก่การนั่งสมาธิ ปฎิบัติธรรม ทำใจให้สงบร่มเย็นมากๆ
ขอบคุณรูปภาพจาก
ยังอยู่กันที่ จ.บึงกาฬ ค่ะ แต่จะชวนเปลี่ยนบรรยากาศนั่งเรือไปเที่ยว ‘ น้ำตกถ้ำพระ ’ กันค่ะ ที่นี่เป็นน้ำตกสวยที่หลายคนมุ่งหน้ามาเช็คอินกันเพราะอยากมาลองเล่นสไลด์เดอร์ธรรมชาติ ที่บอกเลยว่า เราลองแล้ว สนุกสุดๆ จนติดใจอยากกลับไปเล่นซ้ำเลยล่ะค่ะ แต่ขอแนะนำให้มาช่วงหน้าฝนนะคะ เพราะเป็นช่วงเวลาที่น้ำตกมีน้ำเยอะ ส่วนการเดินทางไปน้ำตกถ้ำพระจะต้องเดินทางโดยการนั่งเรือเข้าไปประมาณ 20 นาที และเดินต่ออีกประมาณ 300 เมตร ซึ่งน้ำตกที่นี่จะมี 3 ชั้น โดยชั้นที่ 1 จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในหน้าผา ให้นักท่องเที่ยวมากราบสักการะบูชาด้วยค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก
ต่อกันที่ จ.หนองคาย อีกหนึ่งเมืองริมโขง ที่น่ามาล่องเรือชมแม่น้ำสุดๆ โดยจุดที่ห้ามพลาดคือ บริเวณที่เรียกว่า ‘ พันโขดแสนไคร้ ’ พิกัดที่ต้องล่องเรือมาตามแม่น้ำโขงราว 1 ชั่วโมง ที่นี่ได้สมญาว่าเป็นแกรนด์แคนยอนแม่น้ำโขงแห่งหนองคาย เพราะมีต้นไคร้นับแสนต้นขึ้นอยู่บนโขดหินขนาดใหญ่และเนินทรายกลางแม่น้ำโขงมากมาย จนได้ชื่อว่าเป็นดินแดนพันโขดแสนไคร้ กินพื้นที่ในแม่น้ำโขงฝั่งหนองคายเริ่มตั้งแต่หมู่บ้านตาดเสริม ไปจนถึงบ้านห้วยค้อ รวมระยะทางกว่า 5 กิโลเมตรเลยทีเดียว ซึ่งในช่วงที่น้ำลง จะมีจุดที่เป็นหาดทรายขนาดใหญ่กลางแม่น้ำโขง สามารถลงไปเดินเล่นถ่ายรูปได้ด้วยค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก
อีกหนึ่งที่เที่ยว จ.หนองคาย ที่ไม่อยากให้พลาด ขอยกให้กับ ‘ วัดถ้ำศรีมงคล ’ สถานที่ท่องเที่ยวใน ต.ผาตั้ง อ.สังคม ที่มีไฮไลท์อย่าง ถ้ำดินเพียง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นถ้ำที่พญานาคใช้เดินทางสู่เมืองบาดาล ภายในถ้ำมีเส้นทางคดเคี้ยวเชื่อมต่อกันมากมาย การเที่ยวชมต้องมีไกด์นำทาง เพราะเส้นทางค่อนข้างซับซ้อน นอกจากจะได้เที่ยวตามรอยตำนานเส้นทางพญานาคแล้ว ภายในถ้ำยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรกประดิษฐานให้เราได้กราบไหว้ขอพรกันอีกด้วย
ขอบคุณรูปภาพจาก
คราวนี้จะพาไปอีกวัดสวย จ.หนองคาย นั่นคือ ‘ วัดผาตากเสื้อ ’ วัดชื่อดังที่นอกจากจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแล้วที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศา โดยมีไฮไลท์อยู่ที่สกายวอร์ค พื้นกระจกสูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 500 เมตร ยื่นออกจากตัวหน้าผา 6 เมตร สามารถที่จะมองเห็นทิวทัศน์ของประเทศลาวซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม และหากแวะมาในช่วงหน้าหนาว ก็ยังมีโอกาสได้สัมผัสทะเลหมอกหนานุ่มอีกด้วยจ้า
ขอบคุณรูปภาพจาก
มาที่พิกัดยอดฮิตของ จ.เลย กันบ้าง กับ ‘ ถนนคนเดินเชียงคาน ’ จุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มีสเน่ห์อันโดดเด่น ทั้งในเรื่องศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม บรรยากาศโดยรอบ เรียบง่าย เนิบช้า เต็มไปด้วยที่พักชิลๆ ริมโขง ซึ่งดัดแปลงบ้านไม้เก่าแก่ อีกทั้งยังมีร้านค้า ร้านขายของฝาก มากมาย ซึ่งนอกจากจะมานอนชิลกับที่พักน่ารักริมโขง และช้อปปิ้งของจากถนนคนเดินแล้ว ที่นี่ก็ยังน่ามาลองปั่นจักรยานเล่นไปตามถนนเส้นริมโขงด้วยค่ะ บอกเลยว่าวิวดี และได้ฟีลชิลๆ ดีต่อใจมาก
ขอบคุณรูปภาพจาก
ไปกันต่อที่ ‘ ภูทอก ’ จุดชมทะเลหมอกที่งดงามอันดับต้นๆ ของจังหวัดเลย เป็นจุดเช็คอินที่ผู้คนนิยมมาชมหมอก ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก อยู่ห่างจากตัวอำเภอแค่เพียง 7 กิโลเมตร มีรถสองแถวบริการ ตั้งแต่ตีห้าเลย นั่งรถกินลมชมวิวเพลินๆ ไม่นานก็ถึงยอดเขาแล้วค่ะ โดยด้านบนจะเป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศา มองเห็นวิวแม่น้ำโขงและวิวเมืองเชียงคานได้ชัดแจ๋ว มีพระพุทธรูปให้กราบไหว้สักการะ ที่สำคัญคืออากาศดีมาก ยิ่งถ้าวันไหนมีสายหมอกปกคลุม ก็ยิ่งสวยงามประทับใจสุดๆ
ขอบคุณรูปภาพจาก
อีกหนึ่ง Destination ห้ามพลาดถ้ามาเที่ยว จ.เลย ก็คือ ‘ แก่งคุดคู้ ’ สถานที่เที่ยวยอดฮิตในยามหน้าแล้งเราจะได้เห็นโขดหินยาวขวางแม่น้ำโขง เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของแก่งคุดคู้เลยก็ว่าได้ โดยหน้าแล้งน้ำโขงจะลดลงทำให้เหมือนมีหาดทรายขนาดใหญ่ ซึ่งเราสามารถเดินลงไปถ่ายรูปเล่น หรือจะไปล่องเรือชมความสวยงามของแม่น้ำโขงได้ นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีพิพิธภัณฑ์แก่งคุดคู้ด้วย ซึ่งภายในก็จะเต็มไปด้วยประวัติความเป็นมาของสถานที่ รวมถึงเอกลักษณ์ต่างๆ ของจังหวัดเลยให้เราได้เข้าไปหาความรู้รอบตัวเพิ่มกันเพลินๆ จนลืมเวลาเลยล่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก
มาถึงคิวของ จ.อุดรธานี ค่ะ พิกัดแรกที่ห้ามพลาด โดยเฉพาะกับสายชิล สายแชะทั้งหลาย นั่นก็คือ ‘ ทะเลบัวแดง ’ ที่บึงหนองหาน อ.กุมภวาปี ที่เที่ยวขึ้นชื่อสุดอันซีนของภาคอีสาน ซึ่งเป็น บึงน้ำจืดขนาดใหญ่ มีพื้นที่สองหมื่นกว่าไร่ มีความหลากหลายทางชีวภาพ อุดมไปด้วยพืชน้ำ พันธุ์นก และสัตว์น้ำจืดหลากหลายชนิด และแน่นอนว่าพันธุ์พืชที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ ‘ บัวแดง ’ ซึ่งจะบานให้ชมตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี แต่ช่วงที่บัวบานสะพรั่งสุดๆ คือช่วงมกราคมค่ะ ฉะนั้นใครอยากมาถ่ายภาพสวยๆ ปังๆ ให้แวะมาช่วงเดือนนี้เลยจ้า
ขอบคุณรูปภาพจาก
อ้างอิงบทความจาก
n83 com เข้าสู่ระบบ เว็บพนันออนไลน์อันดับ 1 รวมทุกเกม ไม่ว่าจะเป็น สล็อต บาคาร่า หวย กีฬา ยิงปลา น้ำเต้าปูปลา และอื่นๆอีกมากมาย ที่นี่เป็นเว็บไซต์ตรง ฝาก-ถอน ง่าย ภายใน 30 วินาที สมัครวันนี้พร้อมโปรโมชั่นมากมาย สมัครเลย!!
Copyright © 2024 donnalitaaccessorios.com | All Rights Reserved.